หากพูดถึงสารพิษอันตรายที่ไร้รส ไร้กลิ่น คงมีหลายท่านนึกถึงสารหนูเป็นอันดับแรก แต่จากข่าวดังในช่วงเวลานี้เลยมีคนให้ความสนใจเกี่ยวกับสารอันตรายที่เรียกว่า “ไซนาไนด์” กันมากขึ้น และคิดคงไม่มีใครอยากมีประสบการณ์พบเจออย่างเช่นในข่าวเช่นกัน
แต่จะดีแค่ไหนหากเราสามารถรู้ถึงวิธีสังเกตอาการ และการบรรเทาอาการเบื้องต้น หากตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับในข่าว บทความนี้ วิชาการ จะพามาดูวิธีสังเกตอาการ รวมถึงวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดจากการได้รับสารพิษจากไซยาไนด์กัน
“สารไซยาไนด์” คืออะไร ?
ไซยาไนด์ (Cyanide) คือ สารพิษชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในพืชหลายชนิด เช่น มันสำปะหลัง, ข้าวชนิดต่างๆ, เผือก, หน่อไม้ เป็นต้น เนื่องจากการปรับตัวทางธรรมชาติเพื่อป้องกันศัตรูพืชแต่มีปริมาณเพียงน้อยนิดเท่านั้นและหากเรานำมาปรุงให้สุกจะสามารถทำลายสารไซยาไนด์ไปได้ แล้วจึงรับประทานได้ แต่สารไซนาไนต์ในความเข้มข้น 0.5–3.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เป็นความเข้มข้นที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพียงสัดส่วน 1 ใน 500 ช้อนชาก็ทำให้เสียชีวิตได้ โดยในเชิงอุตสาหกรรมจะใช้สารชนิดนี้ในกระบวนการผลิตกระดาษ, สิ่งทอ, พลาสติก เป็นต้น
เมื่อได้รับสารไซยาไนด์เข้าไป ตัวสารจะเข้าไปเกาะกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำให้เซลล์ทำงานล้มเหลวในการผลิตพลังงานไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ฤทธิ์ของมันจะคล้ายสารหนู แต่ไซยาไนด์ออกฤทธิ์เร็วกว่ามาก เพราะเป็นอันตรายต่อหัวใจได้ในทันที อาการเริ่มแรก คือ ปวดหัวอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ตามด้วยอาการหมดสติ เข้าขั้นโคม่า และหัวใจหยุดเต้น จนเสียชีวิตในที่สุด
“สารไซยาไนด์” มีรูปแบบไหนบ้าง ?
- ของเหลว เช่น Potassium cyanide มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแร่
- ของแข็ง เช่น Sodium cyanide มีลักษณะเป็นผลึกหรือผง เป็นสารเคมีที่ใช้อุตสาหกรรมการเคลือบเงา รวมถึงส่วนประกอบในยาฆ่าแมลง
- แก๊ส เช่น Hydrogen Cyanide, Cyanogen Chloride พบได้ในควันจากท่อไอเสีย, บุหรี่ รวมถึงควันจากอุตสาหกรรม เป็นต้น
ภาวะเป็นพิษจากการได้รับ “สารไซยาไนด์” มีแบบไหนบ้าง ?
สารไซยาไนด์สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง โดยความอันตรายจะขึ้นกับปริมาณ ความเข้มข้นและระยะเวลาที่รับสารพิษ โดยสามารถแบ่งผลกระทบจากการได้รับสารพิษออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- แบบเฉียบพลัน เป็นอาการที่เกิดขึ้นทันที เช่น เวียนหัว หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ชัก หายใจติดขัด เลือดไหลเวียนผิดปกติ ภาวะหัวใจหยุดเต้น หมดสติ ไปจนถึงเสียชีวิต
- แบบเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการได้รับสารไซยาไนด์ปริมาณน้อยแต่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจมีอาการปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน เกิดผื่นแดง ตามมาด้วยอ่อนแรง หายใจช้า จนทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ และเสียชีวิตในที่สุด
หากได้รับ “สารไซยาไนด์” มีวิธีบรรเทาอาการอย่างไรบ้าง ?
เนื่องจากไม่มีวิธีการปฐมพยาบาลแบบจำเพาะเจาะจงกับการถูกสารพิษชนิดนี้ หลักการ คือ ต้องลดปริมาณการสัมผัสของสารไซยาไนด์ให้ได้มากที่สุด และควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเช่นกัน แต่มีวิธีสามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้
- หากสัมผัสทางผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคือง ต้องถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสารไซยาไนด์ออกทันที หลีกเลี่ยงสัมผัสโดยการใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้าออก และระมัดระวังไม่ให้สัมผัสร่างกายบริเวณอื่น ๆ เพิ่ม จากนั้นทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสด้วยน้ำและสบู่ ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วนเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนควรเก็บใส่ถุงพลาสติกที่มิดชิดและกำจัดทิ้งอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
- หากสูดดม ให้นำตัวเองออกจากบริเวณที่มีการปนเปื้อนสารไซยาไนด์ทันที หรือหากไม่สามารถออกจากสถานที่นั้นได้ทันที ควรก้มหัวลงต่ำ หากต้องทำ CPR ในกรณีผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น ควรหลีกเลี่ยงการเป่าปาก เนื่องจากจะเป็นทำให้ผู้ป่วยได้รับสารพิษในอากาศมากขึ้นกว่าเดิม
- หากรับประทาน ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อรักษาได้ทันท่วงที
- หากสัมผัสทางดวงตา ให้บรรเทาอาการด้วยการล้างตาด้วยน้ำสะอาดต่อเนื่องอย่างน้อย 10 นาที ก่อนนำส่งโรงพยาบาล
ได้รับพิษจาก “สารไซยาไนด์” รักษาอย่างไร ?
การรักษาที่ทำได้ คือ การประคับประคองตามอาการ ตั้งแต่การให้ออกซิเจน ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และยากระตุ้นความดันหากความดันโลหิตต่ำ หรือให้ยากันชัก รวมไปถึงการให้ยาต้านพิษในกลุ่ม Sodium Nitrite และ Sodium Thiosulfate
หมายเหตุ : ผู้ที่มีความเสี่ยงได้รับสารไซยาไนด์ เช่น ผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ให้สวมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันอย่างมิดชิด ไม่ควรนำเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ที่อาจปนเปื้อนสารไซยาไนด์ออกนอกสถานที่ทำงานหรือนำกลับบ้าน ควรไปพบแพทย์และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ
Reference:
- โรงพยาบาลสินแพทย์. (2566). รู้จัก “ไซยาไนด์” สารเคมีอันตรายถึงชีวิต!. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566, จาก https://bit.ly/42dlaOS
- อมรรัตน์ พรหมบุญ. (2566). พิษไซยาไนด์ อันตรายจริงหรือ? Cyanide….Toxic?. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566, จาก https://bit.ly/3AEHftV
- POBPAD. (2566). Cyanide สารอันตราย ความเสี่ยง และวิธีการรับมือ. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2566, จาก https://bit.ly/42cC9Rm