หลายครั้งที่ทาสแมวอยากจะเลี้ยงลูกแมวน้อย ๆ จนปล่อยให้แมวผสม แต่หลังจากนั้นล่ะ? เราจะรู้ได้ยังไงว่าแมวท้อง? หรือแค่อ้วนขึ้น? นี่คือปัญหาของทาสแมวมือใหม่ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าต้องสังเกตแมวยังไง แมวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างไร?
การเป็นสัด หรือติดสัด (Proestrus-Estrus) เป็นระยะที่แมวต้องการผสมพันธุ์ และเป็นช่วงที่มีการตกไข่ โดยวงรอบของการเป็นสัดจะอยู่ที่ประมาณ 2- 19 วัน (เฉลี่ย 7 วัน) ปกติแล้วแมวสามารถเป็นสัด ได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมถึงฤดูกาล (Seasonally Polyestrous) นั้น ๆ เพราะแสงเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมน แต่สภาพอากาศในบ้านเราจะอบอุ่นถึงร้อน ดังนั้นในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน แมวก็จะเริ่มเป็นสัดและมีการหลั่งสาร เพื่อดึงดูดเพศผู้ให้มาผสมพันธุ์
วิธีการสังเกตพฤติกรรมแมวที่เข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์
- อยากอาหารมากขึ้น ทานอาหารเยอะขึ้น
- อยากออกไปนอกบ้าน มักชอบส่งเสียงร้องหง่าว ๆ บ่อย ๆ เพื่อดึงดูดเพศผู้เข้าหา
- มีอาการกระสับกระส่าย พักผ่อนน้อยลง
- ปัสสาวะบ่อย เพื่อกระจายกลิ่นหรือฟีโรโมน (Pheromones) ของตัวเอง
- อวัยวะเพศบวม หรือมีน้ำใส ๆ เคลือบอยู่
- มักคลอเคลีย กลิ้งเกลือก หรือถูกับสิ่งของ เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือเจ้าของมากกว่าปกติ ม้วนตัวไปมา มักยกก้นโด่งขึ้น เหวี่ยงหางไปด้านข้าง
อาการที่บ่งบอกว่าแมวกำลังตั้งท้อง
โดยปกติแล้วแมวจะตั้งท้องสัปดาห์ที่ 2 และเริ่มแสดงอาการตั้งท้องในสัปดาห์ที่ 3 ถึง 4 โดยสัญญาณที่บ่งบอกว่าแมวกำลังท้องมี 6 ข้อ ได้แก่
- เต้านมจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นสีชมพู มีของเหลวไหลออกมา เนื่องจากเต้านมเริ่มผลิตน้ำนม แต่อย่างไรก็ตามภาวะนี้อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มติดสัดได้เช่นกัน
- ทานอาหารมากขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ 6-7 แมวจะทานอาหารเยอะขึ้น เพื่อสะสมสารอาหารให้ตัวเล็กในท้อง จนถึงช่วงใกล้คลอดแมวจะรู้สึกเบื่ออาหาร ไม่ยอมทานอะไร
- ขนาดลำตัวเปลี่ยนแปลง ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น หลังของแมวจะโก้งโค้ง ขามีขนาดใหญ่ขึ้น
- น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
- นอนบ่อยขึ้น แมวจะมีอาการง่วงนอนตลอดเวลา
- สร้างรังเตรียมคลอด แมวจะหามุมหลบ เงียบสงบ เช่น ใต้โต๊ะ, มุมห้อง, ในกล่อง เพื่อใช้สร้างพื้นที่สำหรับคลอดลูก
วิธีดูแลแม่แมวตั้งท้อง
- พบสัตวแพทย์เพื่อตรวจอายุครรภ์ ตรวจสภาพความสมบูรณ์ของร่างกายแม่แมว
- ให้อาหารแม่แมวตามหลักโภชนาการ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง รวมถึงอาหารเสริมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตของลูกแมว
- ควรตรวจ Ultra Sound ตั้งแต่ 21 วัน ขึ้นไป สามารถตรวจนับจำนวนลูกแมวในท้องได้
- ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนคลอด ต้องคอยสังเกตอาการของแม่แมวอย่างใกล้ชิด
- จัดเตรียมวัสดุทำคลอด ได้แก่ ตะกร้าหรือกล่องวางไว้ในจุดที่เงียบ ใช้ผ้าขนหนูรองทับ, แอลกอฮอล์, ทิชชูเปียก รวมถึงเตรียมอาหาร และน้ำไว้ใกล้ ๆ ที่คลอด
ควรหมั่นปรึกษาสัตวแพทย์ เรื่องการดูแลคุณแม่แมวให้ถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่แมวและลูกน้อยในท้องนะคะ เพราะสำหรับทาสแมวอย่างเรา ๆ แล้ว น้องแมวเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงเลยก็ว่าได้
Reference:
- Bolttech. (2564). 6 อาการแมวท้อง สังเกตได้ง่ายมาก. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565, จาก https://bit.ly/3k5QXgo
- Petsocietythailand. (2565). วิธีดูว่าแมวตั้งท้องหรือไม่ แนวทางการดูแลแมวท้องในแต่ละช่วงเวลา. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565, จาก https://bit.ly/3Mntnbd
- WikiHow. (2565). วิธีการดูว่าแมวตั้งท้องหรือยัง. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565, จาก https://bit.ly/3EE09lN