ปัญหาไมโครพลาสติกกำลังเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์อย่างรุนแรง พลาสติกขนาดจิ๋วเหล่านี้แทรกซึมเข้าไปในทุกระบบนิเวศ ตั้งแต่ท้องทะเลลึกไปจนถึงขั้วโลกเหนือ และแม้แต่ในร่างกายของเราเอง
ครั้งก่อน วิชาการ พาไปไขคำตอบกันแล้วว่าไมโครพลาสติกคืออะไร อันตรายถึงชีวิตจริงหรือไม่? แต่บทความนี้ จะพาไปรู้จักไมโครพลาสติกกันมากขึ้น ทั้งที่มา ผลกระทบ และวิธีการป้องกันปัญหาไมโครพลาสติก ไปดูรายละเอียดกันได้เลย
“ไมโครพลาสติก” คืออะไร?
ไมโครพลาสติก คือ ชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาดเล็กมาก โดยทั่วไปมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร อาจมีรูปร่างแตกต่างกันไป เช่น เศษเล็ก ๆ เม็ดกลม หรือเส้นใย ฯลฯ พวกมันเกิดขึ้นได้ทั้งจากการผลิตโดยตรง หรือเกิดจากการสลายตัวของพลาสติกชิ้นใหญ่
“ไมโครพลาสติก” มาจากไหน?
แหล่งที่มาของไมโครพลาสติกนั้นหลากหลายและซับซ้อนมาก โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
1. ไมโครพลาสติกปฐมภูมิ
เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตโดยตรง เช่น เม็ดพลาสติกขนาดเล็กที่ใช้ในเครื่องสำอาง สครับ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ฯลฯ
2. ไมโครพลาสติกทุติยภูมิ
เกิดจากการสลายตัวของพลาสติกชิ้นใหญ่ เช่น ขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม และถูกแสงแดด คลื่น และแรงเสียดทานทำลายจนแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ฯลฯ
“ไมโครพลาสติก” พบได้ในไหนบ้าง?
ไมโครพลาสติกแพร่กระจายไปทั่วโลกและพบได้ในทุกระบบนิเวศ ไม่ว่าจะเป็นในมหาสมุทร ทะเล แม่น้ำ ทะเลสาบ ดิน อากาศ และแม้แต่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต รวมถึงมนุษย์เอง โดยแหล่งที่พบไมโครพลาสติกบ่อย ได้แก่
- น้ำดื่ม: ทั้งน้ำประปาและน้ำบรรจุขวด
- อาหารทะเล: สัตว์ทะเลหลายชนิด เช่น หอย ปลา สัตว์น้ำต่าง ๆ ฯลฯ ที่กินไมโครพลาสติกเข้าไป ทำให้เมื่อเรากินสัตว์ทะเลเหล่านี้ ก็จะได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายไปด้วย
- เกลือ: เกลือทะเลบางชนิดพบว่ามีปนเปื้อนไมโครพลาสติก
- อากาศ: ไมโครพลาสติกสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ และเราอาจสูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
อันตรายจาก “ไมโครพลาสติก” มีอะไรบ้าง?
ผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์นั้นยังคงเป็นประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาอย่างต่อเนื่อง แต่จากการศึกษาเบื้องต้น พบว่าไมโครพลาสติกอาจก่อให้เกิดอันตราย ดังนี้
- ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต: ไมโครพลาสติกสามารถเข้าสู่ร่างกายของสัตว์ทะเลและสัตว์บก ทำให้เกิดการอุดตันในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ นอกจากนี้สารเคมีที่เคลือบอยู่บนผิวของไมโครพลาสติกยังอาจซึมเข้าสู่ร่างกายของสัตว์และสะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหาร
- ผลกระทบต่อมนุษย์: เมื่อเรากินอาหารทะเลหรือบริโภคน้ำดื่มที่มีปนเปื้อนไมโครพลาสติก ไมโครพลาสติกเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ร่างกายของเรา และอาจสะสมอยู่ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปอด ตับ ไต ฯลฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น การอักเสบ การเกิดโรคมะเร็ง และปัญหาทางระบบสืบพันธุ์ ฯลฯ
วิธีป้องกันอันตรายจาก “ไมโครพลาสติก”
แม้ว่าปัญหาไมโครพลาสติกจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แต่เราในฐานะบุคคลทั่วไปก็สามารถช่วยลดปัญหาไมโครพลาสติกได้ด้วยการปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้
- ลดการใช้พลาสติก: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว เช่น หลอดพลาสติก ถุงพลาสติก แก้วพลาสติก ฯลฯ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติแทน
- คัดแยกขยะ: คัดแยกขยะพลาสติกเพื่อนำไปรีไซเคิล
- เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของไมโครพลาสติก เช่น สครับที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ ฯลฯ
- ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดชายหาด: ช่วยกันเก็บขยะพลาสติกออกจากชายหาด เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะเหล่านี้สลายตัวเป็นไมโครพลาสติก
- สร้างความตระหนัก: ร่วมกันรณรงค์ให้คนในชุมชนตระหนักถึงปัญหาไมโครพลาสติก และร่วมกันหาทางแก้ไข
ปัญหาไมโครพลาสติกเป็นปัญหาที่ท้าทายและต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน วิชาการ มีความเห็นว่าการเริ่มต้นจากตัวเราเองในการลดการใช้พลาสติกและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คือก้าวแรกที่สำคัญในการแก้ไขปัญหานี้