การทำธุรกิจต้องอาศัยการวางแผนและวางกลยุทธ์การดำเนินงานที่เป็นขั้นตอนชัดเจน และมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาเพื่อให้สินค้าและบริการของเราตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป แน่นอนว่าการเข้าใจความต้องการของลูกค้าถือเป็นหัวใจหลักในการวางแผนการดำเนินธุรกิจ
เพราะหากสินค้าและบริการของธุรกิจเราไม่ได้เป็นที่ต้องการ ก็อาจขายไม่ออกหรือทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า ดังนั้นวันนี้ วิชาการ จึงมาแนะวิธีการปรับตัวธุรกิจให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ว่าจะมีวิธีการอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันได้เลย
คนเปลี่ยน ธุรกิจต้องปรับ ทำอย่างไรให้ธุรกิจเราเข้าไปนั่งในใจของลูกค้า
“ลูกค้า” เปลี่ยนไปอย่างไรในปัจจุบัน ?
ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว
ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารและการขนส่ง ทำให้ลูกค้าในปัจจุบันเคยชินกับความสะดวกสบาย และไม่ชอบการรอคอย ดังนั้นหากซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ แล้ว ก็มักอยากได้รับสินค้าหรือการบริการโดยทันที
ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์
เมื่อผู้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย และมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน จากการใช้สินค้าแค่จำเป็นต้องใช้ก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นต้องการสินค้าที่ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์หรือบ่งบอกความเป็นตัวตนของตนเองมากขึ้น
ลูกค้ามีอำนาจต่อรองสูงขึ้น
จากการเข้ามาของการค้าขายออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคา ตลอดจนโปรโมชันต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้อำนาจต่อรองในการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าสูงขึ้นกว่าเดิมมาก
ให้ความสำคัญกับเทรนด์
สินค้าและบริการสำหรับลูกค้าจะกลายเป็นเครื่องบ่งบอกรสนิยม ตัวตน หรือยกระดับฐานะให้สามารถเข้ากับสังคมได้ ลูกค้าในปัจจุบันจึงหันมาสนใจในการซื้อสินค้าและบริการที่ตอบสนองต่อเทรนด์ที่ลูกค้าสนใจ หรือต้องการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์นั้น
ลูกค้าเปลี่ยนไป ธุรกิจต้อง “ปรับตัว” อย่างไร ?
รวดเร็วในการบริการและสะดวกในการเข้าถึง
เมื่อลูกค้าไม่ยอมรอคอยอีกต่อไป ธุรกิจก็ต้องพัฒนาช่องทางการสื่อสาร ตลอดจนการขนส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าให้เร็วที่สุด เช่น
- การพัฒนา ChatBot ให้สามารถติดต่อลูกค้าได้ตลอดเวลา
- การหา Partner ขนส่งที่สามารถส่งสินค้าได้ภายใน 1 วัน
เป็นต้น
ลูกค้าต้องมีส่วนร่วมกับสินค้าและบริการของธุรกิจ
เมื่อไลฟ์สไตล์เป็นเครื่องบ่งบอกตัวตนของลูกค้า ดังนั้นลูกค้าควรเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบสินค้าที่สามารถผลิตออกมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ เช่น
- แบรนด์โทรศัพท์มือถือที่ให้ลูกค้าสามารถออกแบบสีหรือเลือกวัสดุฝาหลังโทรศัพท์เองได้
เป็นต้น
เปลี่ยนอำนาจต่อรองเป็นความภักดีต่อแบรนด์
เมื่อลูกค้ามีอำนาจต่อรองสูง ธุรกิจก็ต้องปรับตัวว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์สินค้าของเรา เมื่อเจอสินค้าที่ราคาถูกกว่าแต่ก็ยังซื้อกับแบรนด์สินค้าของเราต่อไป เช่น
- การทำโปรโมชันสำหรับสมาชิก
- การออกแบบการบริการที่ประทับใจลูกค้า
- การมี Partner ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามาซื้อสินค้ากับเราและได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม
เป็นต้น
ปรับตัวตามเทรนด์ให้ทัน
การทำธุรกิจอย่าคิดว่าเทรนด์ต่าง ๆ เป็นเรื่องไกลตัวหรือไม่สำคัญ เพราะบางครั้งอาจกระทบต่อธุรกิจของเราก็ได้ ดังนั้นการที่ธุรกิจสามารถปรับตัวตามเทรนด์ต่าง ๆ ได้นอกจากจะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เช่น
- ธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การใช้วัสดุรีไซเคิลมาผลิตสินค้า, การใช้พลังงานสะอาดในโรงงาน ฯลฯ
- การก่อสร้างอาคารสำนักงานที่ผ่านการรับรองด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เป็นต้น