ปัจจุบันภาษาอังกฤษมีบทบาทอย่างมาก ส่วนใหญ่ใช้ในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาบางสาขาวิชา, การรับสมัครเข้าทำงานในบริษัทชื่อดังในประเทศ ไปจนถึงการรับสมัครทำงานต่างประเทศ ซึ่งจะมีการกำหนดมาในคุณสมบัติว่าต้องผ่านการวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน (TOEIC) ตามเกณฑ์คะแนนที่กำหนดของแต่ละที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะต้องการผลในระดับ 550-700 คะแนนขึ้นไป ดังนั้น วิชาการ จึงมีสาระเกี่ยวกับการสอบ TOEIC มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน
TOEIC คืออะไร ?
TOEIC (Test of English for International Communication) เป็นบททดสอบความรู้ภาษาอังกฤษที่ใช้ในการทำงาน คะแนนการสอบ TOEIC อ้างอิงจาก CPA (Thailand) จะมีคะแนนเต็มที่ 990 คะแนน และมีอายุของผลสอบอยู่ที่ 2 ปีด้วยกัน โดยมาจากการรวมคะแนน 2 ส่วน คือ
-
Listening Comprehension มี 4 แบบทดสอบ ข้อสอบ 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน ใช้เวลา 45 นาที
- Photographs : มี 5 ข้อ ดูภาพและฟังเสียง 4 ตัวเลือก
- Question-Response : มี 25 ข้อ ฟังเสียง 3 ตัวเลือก
- Short Conversation : มี 39 ข้อ ฟังเสียง 3 ตัวเลือก
- Short Talks : มี 30 ข้อ 10 บท 1 ผู้พูด บางบทมีภาพประกอบ
- Reading Comprehension มี 3 แบบทดสอบ ข้อสอบ 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน ใช้เวลา 75 นาที
- Incomplete Sentences : มี 30 ข้อ เติมคำลงในรูปประโยค
- Text Completion : มี 16 ข้อ เติมคำหรือประโยคลงในเนื้อเรื่อง
- Reading Comprehension : มี 54 ข้อ
- บทความเดี่ยว 29 ข้อ
- บทความคู่ 10 ข้อ
- บทความ 3 ส่วน 5 ข้อ
เคล็ดลับการเพิ่มคะแนน TOEIC ให้สูงขึ้น
-
ศึกษาเนื้อหาที่ใช้ในการสอบ TOEIC
ศึกษาเนื้อหาที่ใช้ในการสอบว่ามีแนวทางในการสอบอย่างไร มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง นำไปสู่การทำความเข้าใจเนื้อหาเรื่องนั้น ๆ แล้วนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในการสอบต่อไป -
ฝึกฝนตามเนื้อหาที่ไปศึกษา
การสอบ TOEIC เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นการวัดความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการทำงาน ดังนั้นทักษะที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเน้นการฟังและการอ่านเป็นหลัก ซึ่งทักษะการฟังนั้นจำเป็นจะต้องมีการฝึกฝน เพื่อให้มีความคุ้นเคยกับสำเนียง ทำความเข้าใจและสามารถจับใจความสำคัญขณะที่ฟัง นำไปสู่การตอบข้อสอบ ถ้าฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจก็จะทำให้คะแนนในส่วนนี้หายไป ซึ่งสามารถฝึกการฟังได้ดังนี้
- ฟังข่าวภาษาอังกฤษ เช่น BBC, TNN Thailand News ฯลฯ
- รายการภาษาอังกฤษจาก YouTube
- การฟังเพลงภาษาอังกฤษ
- การดูหนังหรือภาพยนต์ภาษาอังกฤษ
-
ท่องคำศัพท์ตามเนื้อหาที่เคยออกข้อสอบ
การท่องคำศัพท์จะช่วยให้เรามีคลังคำศัพท์ในสมองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสอบอย่างมาก โดยเฉพาะข้อสอบส่วนของการอ่านซึ่งจำเป็นจะต้องทราบคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเกี่ยวข้องกับ
- ศัพท์ในการทำงาน
- การใช้ชีวิตประจำวัน
- ตามสถานที่หรือสถานการณ์ต่าง ๆ
- การนัดหมาย
-
ประเมินจุดแข็ง – จุดอ่อนของตัวเอง
การประเมินจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง มีส่วนช่วยในการเพิ่มคะแนน TOEIC จะทำให้เราสามารถกำจัดจุดอ่อนของเราได้โดยการฝึกฝนและทำข้อสอบในส่วนนั้น ๆ เพิ่มขึ้นจากเดิม เพื่อช่วยให้คะแนนในส่วนที่เราอ่อนก็เพิ่มขึ้นตามมาด้วย -
การฝึกทำข้อสอบเสมือนจริง
การฝึกทำข้อสอบเสมือนจริง ช่วยจำลองสถานการณ์จริงในการสอบ TOEIC ที่ไม่เหมือนการสอบปรนัยทั่วไป ซึ่งจะมีการฟังแล้วตอบคำถามเลย ผ่านไปแล้ว ผ่านไปเลย ไม่สามารถย้อนกลับมาทำข้อเดิมได้อีก รวมไปถึงเป็นการฝึกการบริหารจัดการเวลาในการสอบที่จะต้องทำข้อสอบให้ทันตามเวลาที่กำหนด ถ้าทำไม่ทันก็จะทำให้เสียคะแนนในส่วนนั้นไป
การสอบ TOEIC ไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีความขยัน หมั่นฝึกฝน ตั้งใจ ใส่ใจในการศึกษาเนื้อหาที่จะสอบ คำศัพท์ การฟัง ตลอดจนการฝึกทำข้อสอบให้บ่อย ๆ ก่อนจะมีการสอบจริงเพราะจะได้ทำคะแนนสอบให้สูง ๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการสอบแต่ละครั้งค่อนข้างสูง การสอบหลาย ๆ ครั้งย่อมส่งผลไม่ดีต่อเงินในกระเป๋า ดังนั้นฝึกฝนจนมั่นใจก่อนสอบ จะได้ไม่พลาดคะแนนที่เราได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้
Reference:
- Aims. (2565). TOEIC คืออะไร? ทำไมต้องสอบ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566, จาก https://9va6.short.gy/efZ81e
- JT. (2563). 5 ความลับที่ข้อสอบ TOEIC ไม่เคยบอกคุณ. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566, จาก https://9va6.short.gy/7Yzxp5
- SI ENGLISH LIVE STUDY TRAVEL. (2560). 5 เคล็ดลับ TOEIC ที่จะช่วยให้คุณได้คะแนนสูงขึ้น. สืบค้นเมื่อวันที่ 17มิถุนายน 2566, จาก https://9va6.short.gy/wB65Nv