เจ็บป่วยไม่อยากไปหาหมอ ปล่อยให้หายเองได้ไหม?

          ด้วยสถานการณ์ของแพงในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราทุกคนอย่างมาก ในวันวันหนึ่งบางคนเสียเงินตั้งแต่ก้าวเท้าแรกที่ออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่ค่าเดินทาง ค่าอาหารการกิน มีแต่สิ่งที่ต้องจ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเจ็บไข้ได้ป่วย คงยิ่งไม่ต้องพูดถึง การเจ็บป่วยแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียมากมายก่ายกอง การเจ็บป่วยบางโรคก็คงจะหลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลไม่ได้ แต่ก็มีโรคบางโรคที่เราสามารถรักษาได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล คงจะดีไม่น้อย หากเรามีความรู้ในเรื่องการดูแลรักษาตัวเอง ก็สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายไปได้มาก ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทาง หรือค่ายาใด ๆ

          ในที่นี้เราขอนำเสนอวิธีการปฏิบัติและการดูแลตัวเองหากเราเป็น 3 โรคนี้ ที่เราสามารถทำได้ โดยไม่ต้องพึ่งการใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ต้องไปโรงพยาบาล

1. โรคท้องเสีย

  • สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากเชื้อไวรัส การรับประทานอาหารไม่สะอาด
  • วิธีการปฏิบัติตัวมีดังนี้
    • ดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่เสียไป
    • อาจรับประทานผงถ่านคาร์บอน (Activated Charcoal) เพื่อดูดซับสารพิษ และแก๊ส ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและทำให้อุจจาระเหลวน้อยลง
    • ทานอาหารอ่อน ๆ เช่น โจ๊กหรือข้าวต้ม งดอาหารรสจัด หลีกเลี่ยงการรับประทานนม
    • ในบางรายที่มีอาการไข้ร่วมด้วย ให้ทานยาลดไข้ แต่หากไม่หาย ควรไปพบแพทย์
    • ในบางรายที่อุจจาระมีมูกเลือดปน และอาการท้องเสียไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ควรไปพบแพทย์เช่นกัน

2. โรคหวัด

  • มากกว่า 80% เกิดจากเชื้อไวรัส
  • วิธีการปฏิบัติตัวมักจะรักษาตามอาการมีดังนี้
    • มีไข้ ให้ทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ร่วมกับการเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย
    • คัดจมูก น้ำมูกไหล ให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
    • เจ็บคอและไอ ให้ทานยา/อม/สเปรย์ฉีดที่มีคุณสมบัติลดการระคายเคืองและแก้เจ็บคอ ยกตัวอย่าง ยาอมที่มีส่วนผสมของฟ้าทะลายโจร หรือมะแว้ง
    • นอนพักผ่อนให้เพียงพอและทำให้ร่างกายให้อบอุ่น จิบน้ำอุณหภูมิห้องบ่อย ๆ จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น กำจัดเชื้อไวรัสได้เร็วขึ้น
    • หากมีอาการเจ็บคอและมีไข้สูงมาก โดยไม่มีอาการของหวัดหรือไอ คลำบริเวณขากรรไกร พบต่อมน้ำเหลืองโต เมื่อกดลงไปแล้วรู้สึกเจ็บ บ่งบอกถึงภาวะการอักเสบ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะ

3. เป็นแผลเลือดออก (ที่เป็นแผลสะอาด)

  • ที่เกิดจากอุบัติเหตุ ถูกบาดด้วยของมีคม บาดแผลนั้นเป็นแผลเปิดที่มีขอบเรียบ ไม่ลึกมาก ไม่มีเนื้อตาย ไม่จำเป็นต้องพึ่งการรับประทานยาปฏิชีวนะ
  • การปฏิบัติตัว ควรทำดังนี้
    • รักษาความสะอาดของแผลให้ดี ชะล้างบาดแผลให้ทั่วถึง ด้วยน้ำเกลือหรือน้ำสะอาด
    • ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำยาฆ่าเชื้อใด ๆ ลงไปที่แผล และทำแผลอย่างถูกวิธี
    • ดูแลบาดแผลไม่ให้โดนน้ำ 3-7 วัน และไม่ไปสัมผัสสิ่งสกปรกเพิ่มเติม
    • หากเป็นแผลเลือดออกจากสัตว์กัด โดนของมีคมสกปรกบาด ปนเปื้อนสิ่งสกปรก ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษา
    • โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ที่หากเป็นแผลมักจะหายช้ากว่าคนปกตินั้น ควรไปพบแพทย์เช่นกัน เพื่อลดปัญหาการอักเสบของแผลได้
    • หากพบว่าแผลมีอาการบวมอักเสบ ต้องรีบไปหาหมอทันที

 

          ทั้ง 3 โรคที่กล่าวมานี้ ถือว่าเป็นโรคที่พบเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ การรักษาและการดูแลที่ถูกวิธีจะทำให้อาการของโรคดีขึ้นได้เอง ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ ลดการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาได้อีกด้วย แม้บางโรคเมื่อมีอาการไม่สบาย สามารถรักษาให้หายเองได้ แต่หากรู้สึกว่าอาการไม่ดีขึ้น และแย่ลง ต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุต่อไป

 


Reference:

  • โรงพยาบาลจุฬารัตน์อินเตอร์.  (2565).  3 โรครักษาได้ ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ.  สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565, จาก https://bit.ly/3NBXqMl
  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา.  (2561).  โรคที่หายได้เอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ.  สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565, จาก https://bit.ly/3R3ya4R
  • ภญ.ทิพวรรณ วงเวียน.  (2565).  3 โรคที่พบบ่อย หายได้เอง ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ.  สืบค้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565, จาก https://bit.ly/3NF1Q55



วิชาการ
Logo
Enable registration in settings - general