สถานการณ์โรคฝีดาษลิงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565-เมษายน 2566 พบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ส่วนในระยะหลังจากนี้เริ่มพบผู้ป่วยในประเทศเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และมีรายงานคนไทยเสียชีวิตจากโรคนี้เป็นรายแรกแล้ว โดยมีพื้นที่การระบาดคือ “กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, นนทบุรี และสมุทรปราการ”
ซึ่งคนปกติทั่วไปจะมีความเสี่ยงในการติดโรคน้อย ส่วนใหญ่มักพบการติดเชื้อกับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง ปัจจุบันมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นและมีการติดเชื้อที่อยู่ในกลุ่มเยาวชนที่มีอายุน้อยลง วิชาการ จึงนำสาระความรู้และสถานการณ์การติดเชื้อโรคฝีดาษลิงในปัจจุบันมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน
“โรคฝีดาษลิง” คืออะไร ?
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) คือ โรคติดต่อที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนและติดจากคนสู่คนได้ เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxiridae ซึ่งอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เช่นเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดฝีดาษในคนหรือไข้ทรพิษและฝีดาษวัว ซึ่งเชื้อไวรัสในฝีดาษลิง สามารถพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก, หนูป่า เป็นต้น
“โรคฝีดาษลิง” รักษาอย่างไร ?
ในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคฝีดาษลิงเฉพาะ ทำได้เพียงการให้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษ ซึ่งผลการรักษาจะมีประสิทธิภาพเพียง 85% รวมทั้งการให้ยาต้านไวรัส ได้แก่ Cidofovir, Tecovirimat และ Brincidofovir
วิธีการรักษาแบบประคับประคองอาการ
- ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
- ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน
- ดูแลผิวหนังที่ติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการแกะ / เกาแผล
- บริเวณที่เป็นผื่น ต้องมีการระบายอากาศ เพื่อไม่ให้ผิวหนังอับชื้น
- ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสผื่น
- ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า
“ฝีดาษ” และ “ฝีดาษลิง” แตกต่างกันอย่างไร ?
โรคไข้ฝีดาษลิงหรือไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) เกิดจากไวรัส Othopoxvirus “เป็นการติดต่อจากลิงสู่คน” ที่นับว่ามีอันตราย
ส่วนโรคไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษ (Smallpox) เป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นจากเชื้อ ไวรัสวาริโอลา โดยเชื้อไข้ทรพิษนี้จะ”ติดต่อกันแบบคนสู่คนผ่านระบบทางเดินหายใจเพียงอย่างเดียว” โดยผ่านการไอและจาม ทำให้เชื้อสามารถแพร่ผ่านละอองฝอยของสารคัดหลั่งได้ นอกจากนี้หลังการติดเชื้อผิวหนังจะแห้งตกสะเก็ด และหลุดจนหมด เมื่อหายแล้วจะกลายเป็นรอยแผลเป็นทิ้งไว้ หากมีการติดเชื้อแล้ว จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าฝีดาษลิง หากสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ได้รับเชื้อฝีดาษ อาจส่งผลถึงขั้นแท้งบุตรในครรภ์ได้
“โรคฝีดาษลิง” เป็นแล้วหายได้เองไหม ?
โรคฝีดาษลิงเมื่อเป็นแล้วสามารถหายจากโรคได้เอง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ และมียาต้านไวรัสในกลุ่มของฝีดาษคนและฝีดาษลิงที่สามารถรักษาโรคได้ โดยแพทย์เฉพาะทางจะพิจารณาจากอาการเป็นหลัก โดยเฉพาะ อาการมีไข้พร้อมกับตุ่มน้ำใส คือสัญญาณชัดเจนของโรคฝีดาษลิง โดยจะทำการ
- ตรวจหาสารพันธุกรรม Real – Time PCR โดยระยะเวลาการตรวจอยู่ที่ 24 – 48 ชั่วโมง
- รตรวจลำดับนิวคลิโอไทด์ด้วยเทคนิค DNA Sequencing ที่ใช้ระยะเวลาการตรวจ 4 – 7 วัน
สถานการณ์ “โรคฝีดาษลิง” ในประเทศไทย
ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 มีรายงานผู้ป่วยรวม 316 ราย เสียชีวิต 1 ราย (เป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง)
- พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ :
- กรุงเทพมหานคร 198 ราย
- จังหวัดชลบุรี 22 ราย
- จังหวัดนนทบุรี 17 ราย
- จังหวัดสมุทรปราการ 12 ราย
- ประเภทของผู้ติดเชื้อ :
- กลุ่มผู้ป่วยที่พบเป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย 271 ราย
- มีผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี 143 ราย
- สัญชาติของผู้ติดเชื้อ :
- เป็นผู้ป่วยมีสัญชาติไทย 277 ราย
- ต่างชาติ 36 ราย
- ไม่ระบุ 3 ราย
- ช่วงอายุของผู้ติดเชื้อ :
- ติดเชื้อมากที่สุด คือ อายุ 30-39 ปี
- รองลงมา คือ อายุ 20-29 ปี
- และเยาวชนอายุ 15-24 ปี
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดได้พบผู้ป่วยที่มีอายุน้อยสุดที่ติดเชื้อเป็น นักเรียนชายอายุ 16 ปี เริ่มป่วยวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เข้ารับการรักษา วันที่ 14 สิงหาคม 2566 ด้วยอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกายร่วมกับอวัยวะเพศบวมอักเสบ ตรวจพบเชื้อฝีดาษลิง โดยมีประวัติเสี่ยงคือการมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมีการติดเชื้อสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนกลุ่มชายรักชาย ให้ระวังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสใกล้ชิด แนบชิด การกอด จูบ กับบุคคลที่ไม่รู้จักและไม่ทราบว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ เพื่อลดการระบาดของโรค วิชาการ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านในการป้องกันและระวังไม่ให้เกิดการติดเชื้อฝีดาษลิง
Reference:
- กรมควบคุมโรค. (2565). กรมควบคุมโรค เผยโรคฝีดาษลิงติดจากสัตว์สู่คนได้แม้มีโอกาสติดน้อย แต่ต้องเฝ้าระวัง พร้อมแนะวิธีป้องกัน. สืบค้นเมื่อวันที่ 07 กันยายน 2566, จาก https://9va6.short.gy/227Bao
- ไทยรัฐ. (2566). “ฝีดาษลิง” วิกฤติ มีนร.ชายติด 16 ยอดเดือนส.ค.พุ่ง 145 เตือนเพศสัมพันธ์มั่ว. สืบค้นเมื่อวันที่ 07 กันยายน 2566, จาก https://9va6.short.gy/lwS2at
- ThaiPBS. (2566). น่าห่วง! “ฝีดาษลิง” ส.ค.นี้เพิ่มอีก 145 คนต่ำสุดชายอายุ 16 ปี. สืบค้นเมื่อวันที่ 07 กันยายน 2566, จาก https://9va6.short.gy/4Zb1gX