สวยได้ง่าย ๆ ด้วย สมุนไพร ว่านห่างจระเข้ สรรพคุณ/ประโยชน์/วิธีใช้

          ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) หนึ่งในสมุนไพรติดครัวของคนไทย เราจะรู้จักสรรพคุณของเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องการรักษาผิวพรรณ หลายประเทศเองก็ใช้ประโยชน์จากว่านหางจระเข้ในการรักษาโรคและดูแลผิวด้วยเช่นกัน ว่านหางจระเข้เป็นไม้ล้มลุก, ใบเป็นใบเดี่ยว, ริมใบหยัก, มีหนาม ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญก็คือวุ้นและเมือกใสที่อยู่ในใบ

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้

          โพลียูโรไนด์และโพลีแซคคาไรด์ เป็นสารสำคัญที่ช่วยรักษาบาดแผลและป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย สามารถนำวุ้นจากใบมาทาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ลดการเกิดฝ้า ฯลฯ อีกทั้งนังสามารถนำมารับประทานแก้โรคกระเพาะ นอกจากนี้ยังมีสาร Aloctin A ที่มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ส่วนอื่น ๆ ของต้น เช่น ยางสามารถนำมาทานเป็นยาระบาย รากก็นำมาทานแก้โรคหนองในได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากว่านหางจระเข้ได้ทุกส่วน

          แต่หากเน้นเฉพาะสรรพคุณในเรื่องผิวพรรณ ความสวยงามนั้น มีสูตรบำรุงผิวมากมายหลายสูตรให้เราเลือกใช้ ในที่นี้เราขอนำเสนอสูตรบำรุงผิวพรรณ ตั้งแต่หัวจรดเท้าให้คุณ ๆ ลองนำไปใช้กัน ไปดูกันเลย

ผม

  • นำวุ้นผสมกับน้ำเปล่าในอัตรา 1:1 นำไปกรอง และนำน้ำที่ได้ไปหมักผม ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างให้สะอาด ทำให้ผมเงางาม ช่วยขจัดรังแค
  • นวดที่หนังศีรษะ เพื่อรักษาแผลบนศีรษะได้

ผิวหน้า

  • นำวุ้น ฝานบาง ๆ แล้วนำมาทาหน้า วันละ 2 ครั้ง จะทำให้รอยด่างดำแผลเป็นบนใบหน้าลดลง, ผิวหน้าเนียน, ลดการเกิดริ้วรอย, ลดความมัน, ลดการเกิดสิว
  • นำวุ้นไปปั่นจนละเอียด แล้วมาแต้มหัวสิวก่อนนอน เพื่อลดอาการอักเสบ
  • นำวุ้นมาทาใต้ตาเพื่อลดอาการบวม ลดขอบตาคล้ำ

ผิวตัว

  • นำวุ้นมาใช้ในการรักษาแผลไฟไหม้, น้ำร้อนลวก, แผลถลอกจากการถูกครูด โดยนำมาบดหรือฝานบาง ๆ แล้ววางไว้ที่บริเวณแผล
  • นำวุ้นมาทาบริเวณรอยผิวไหม้จากแดด จะสามารถลดอาการแสบจากผิวไหม้แดดได้
  • นำวุ้นมาทาตัว, มือ, เท้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที และล้างออก หากทำเป็นประจำจะทำให้ผิวนิ่ม ชุ่มชื้น
  • นำวุ้นมาหั่นเป็นชิ้น นำไปใส่ไว้ในถุงผ้าขนาดเล็ก แล้วนำไปหย่อนไว้ในอ่างอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำนำวุ้นมาทาวน ๆ ตรงส่วนที่หยาบกร้าน, ข้อศอก, หัวเข่า, ส้นเท้า จะช่วยให้ผิวบริเวรนั้นเนียนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน

สวยจากภายในด้วยการรับประทาน

          น้ำที่ทำจากวุ้นอุดมไปด้วยวิตามิน ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ, ซี, บี รวมถึง แร่ธาตุ เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, สังกะสี, โพแทสเซียม สามารถนำมารับประทานได้

  • สามารถล้างพิษ ช่วยในการย่อยอาหาร สามารถบรรเทาอาการอักเสบและลดความร้อนในร่างกาย
  • ลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือดได้ รับประทานเพื่อป้องกันโรคเบาหวานได้
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากมีสารโพลีแซคคาไรด์ ช่วยลดการอักเสบและช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก เนื่องจากมีสาร Anthraquinone ซึ่งมีฤทธิ์ในการระบาย ช่วยลดน้ำหนักได้
  • ปรับสมดุลในร่างกาย ปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย
  • บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ควบคุมความดันเลือด

ข้อควรระวัง

  • ในกรณีใช้ว่านหางจระเข้สด วุ้นที่นำมาใช้ ควรจะต้องล้างทำความสะอาดให้ดี ป้องกันน้ำยางจากเปลือกที่จะทำให้เกิดการแพ้ได้
  • ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้เสมอ โดยนำวุ้นมาทาบริเวณโคนหูหรือท้องแขน ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที หากรู้สึกมีอาการระคายเคืองหรือผื่นแดง แสดงว่ามีอาการแพ้
  • การดื่มน้ำว่านหางจระเข้มากเกินไปอาจส่งผลเสียได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยในการขับถ่าย อาจจะทำให้ร่างกายสูญเสียแร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะโพแทสเซียม


          แม้ว่าว่านหางจระเข้จะเป็นสมุนไพรไทย แต่หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป หรือใช้ผิดวิธีก็สามารถก่อให้เกิดผลเสียได้ ดังนั้นควรใช้ในปริมาณพอดีและศึกษาวิธีการนำไปใช้ให้ถูก พร้อมทดสอบการแพ้ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัยของเราเอง จะได้สวยอย่างปลอดภัยและไร้กังวล

 


Reference

  • ศาสตราจารย์นายแพทย์วิวัฒน์ วิสุทธิโกศล.  (2561).  ประโยชน์ของว่านหางจระเข้.  สืบค้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565, จาก https://bit.ly/3zyn80Z
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.  (2558).  ว่านหางจระเข้.  สืบค้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565, จาก https://bit.ly/39hNU2V
  • MedThai.  (2560).  ว่านหางจระเข้ สรรพคุณและประโยชน์ของว่านหางจระเข้ 40 ข้อ.  สืบค้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565, จาก https://bit.ly/3mEK7zZ

 

วิชาการ
Logo
Enable registration in settings - general