การไปเรียนต่อต่างประเทศถือเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากไปเปิดโลกกว้างทางการศึกษาและหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ปกติแล้วเราจะเห็นทุนเรียนต่อต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นทุน ป.โท และ ป.เอก แต่ในปัจจุบันสถาบันต่าง ๆ ให้ทุนเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาตรีมากขึ้น จึงถือเป็นโอกาสดีของน้อง ๆ ที่กำลังจะจบ ม.ปลาย บทความนี้จะพาไปดูว่าเราจะมีการเตรียมความพร้อมอย่างไร ก่อนลงสนามสอบชิงทุน ป.ตรี เมืองนอก
วางแผนและตัดสินใจที่จะเรียนต่อต่างประเทศ
อันดับแรก เราต้องหาข้อมูลและตั้งเป้าหมายว่า เราอยากไปเรียนประเทศไหน, มหาวิทยาลัยอะไร, เรียนสาขาอะไร, เพราะอะไร ซึ่งน้อง ๆ สามารถหาข้อมูลเหล่านี้จากเว็บไซต์มากมาย, ยูทูบเบอร์ที่เรียนต่างประเทศ, นักเรียนที่เคยได้รับทุนนั้น ๆ มา เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ว่าเราควรจะสมัครทุนไหน เพื่อให้บรรลุเป้าตามที่เราตั้งไว้
หาข้อมูลเกี่ยวกับทุนที่อยากได้แต่เนิน ๆ
เมื่อเรารู้แล้วว่าเรามีเป้าหมายอะไรและจะสมัครทุนไหน การติดตามความเคลื่อนไหวของทุนนั้นผ่านเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าทุนนั้นจะเปิดรับสมัครช่วงไหนของปี, ใช้เอกสารใดบ้าง, มีการสอบช่วงเดือนไหน และสอบวิชาไหนบ้าง ยิ่งเรารู้ข้อมูลเหล่านี้เร็วเท่าไร เราจะมีเวลาเตรียมตัวมากเท่านั้น โอกาสที่จะได้ทุนก็มากขึ้นตามไปด้วย
ทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดของทุนที่จะสมัคร
ทุนเรียนต่อต่างประเทศ ป.ตรี แต่ละทุนก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน บางทุนให้ทุนเพียงบางสาขาวิชา ให้ทุนเต็มจำนวนหรือบางส่วน บางทุนเป็นทุนให้เปล่า แต่บางทุนก็จะมีเงื่อนไขที่ต้องกลับมาทำงานในตำแหน่งที่กำหนด หรือทำงานเป็นระยะเวลาที่กำหนด ฉะนั้นน้อง ๆ จำเป็นที่จะต้องศึกษารายละเอียดเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะสมัครและดูว่าเรารับเงื่อนไขของทุนได้ไหม และตรงกับเป้าหมายที่เราตั้งไวหรือไม่
เตรียมตัวด้านภาษา
จุดมุ่งหมายหนึ่งสำหรับการเรียน ป.ตรีในต่างประเทศคือ ทำให้เราสามารถสื่อสารภาษาที่สองหรือสามได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ในความเป็นจริงหนึ่งในเกณฑ์สำคัญในการเรียนต่อต่างประเทศคือ การมีภาษาที่ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะทุนของมหาวิทยาลัยในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก มักจะกำหนดให้ผู้สมัครสอบทุนต้องผ่านการสอบ IELTS อย่างน้อย 6.0 คะแนน หรือ มากกว่านั้น สาเหตุเพราะว่าการไปอยู่ต่างประเทศจำเป็นอย่างยิ่งที่ อย่างน้อย เราควรสามารถฟังออกและสื่อสารในชีวิตประจำวันได้บาง ไม่อย่างนั้นการใช้ชีวิตอาจจะลำบากและไม่ได้รับประสบการณ์เต็มที่
รักษาผลการเรียนดีให้อยู่ในเกณฑ์ดี
ผลการเรียนถือเป็นอีกเกณฑ์พื้นฐานอย่างหนึ่งที่หลายทุนกำหนดให้ผู้สมัครต้องมีผมการเรียนตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป (บางทุนที่ใจดีก็เริ่มที่ 2.50) ดังนั้นการรักษาผลการเรียนให้อยู่ในเกณฑ์ 3.00 กว่า ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนสำหรับใครที่ผลการเรียนไม่ถึงเกณฑ์ก็อย่าพึ่งท้อถอยไป เพราะบางทุนก็ไม่ได้กำหนดเรื่องผลการเรียน ซึ่งเราก็ต้องเสริมสร้างส่วนอื่นของใบสมัครเราให้แข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามการมีผลการเรียนที่ดีเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าเราชอบเรียน ชอบศึกษา และมีความสามารถที่จะเรียนจบ มีความรับผิดชอบในการเรียน
มี Story & Inspiration
อีกส่วนสำคัญของการสมัครสอบทุนเรียนต่อคือ การตอบให้ได้ว่าเราอยากได้ทุนไปเรียนเพราะอะไร มีอะไรเป็นแรงพลักดัน และเมื่อเรียนจบมาแล้วจะนำความรู้ที่ได้ไปทำอะไรต่อ ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของการเขียน Personal Statement, เขียนบรรยาย หรือสอบสัมภาษณ์ การมีที่มาและเรื่องราวของการสมัครทุนเรียนต่อ และเสริมด้วยกิจกรรมที่สอดคล้อง เช่น อยากได้ทุนเรียนต่อด้านเทคโนโลยีการแพทย์ เพราะอยากจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือคนชรา และมีประสบการณ์เป็นอาสาสมัครในบ้านพักคนชราช่วงปิดเทอมหลายปีต่อกัน ซึ่งเป็นตัวอย่างของใบสมัครที่แข็งแกร่งระดับหนึ่ง
Reference:
- Rujira B. (2563). 5 ขั้นตอนเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการหาทุนการศึกษา จากประสบการณ์จริงของนักล่าทุนฯ. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565, จาก https://bit.ly/3zpG5RV
- Miss Detective Diva. (2562). สืบเทคนิคจากประสบการณ์จริง ทำอย่างไรให้ได้ ‘ทุน’ !. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565, จาก https://bit.ly/3vwkzcT
- Little Swan. (2565). ทุนปริญญาตรี. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565, จาก https://bit.ly/3znDkR1