IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ โดยมากใช้เพื่อเรียนต่อต่างประเทศ หรือทำงาน ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก การสอบ IELTS ทดสอบ 4 ทักษะในการใช้ ภาษาอังกฤษคือ ฟัง, พูด, อ่าน และ เขียน โดยแต่ละทักษะจะคิดเป็นคะแนน (Band) จาก 1 ถึง 9 ปกติแล้วเวลาสมัครเรียนต่อ ผู้สมัครจะต้องมีคะแนน IELTS เฉลี่ยทั้ง 4 ทักษะ อย่างน้อย 6.5 คะแนน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่มหาวิทยาลัยที่จะกำหนดคะแนนขั้นต่ำ ซึ่งบางมหาวิทยาลัยก็มีเกณฑ์การรับสมัครเริ่มที่ 7 เลยที่เดียว วันนี้ วิชาการ ได้รวบรวม เทคนิค ดี ๆ เพื่อช่วยให้น้อง ๆ ที่กำลังเตรียมสอบ IELTS ได้ไปใช้กัน
-
ทำความเข้าใจกับประเภทการสอบ IELTS
ก่อนที่เราจะเริ่มเตรียมสอบ เราต้องรู้ก่อนว่าเราต้องสอบ IELTS ประเภทไหน การสอบ IELTS มีด้วยกันอยู่ 2 ประเภท คือ IELTS General Training และ IELTS Academic โดย ELTS General Training จะเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษที่ใช้โดยทั่วไปในการดำเนินชีวิตประจำวันและทำงานทั่วไป แต่สำหรับ IELTS Academic จะเป็นการทดสอบภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ในการเรียนต่อ หรืออาชีพที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษระดับสูง -
รูปแบบการสอบ IELTS
ก่อนที่จะลงมือเตรียมสอบ IELTS เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจว่าในห้องสอบจริงจะเจออะไร เพื่อที่เวลาเข้าห้องสอบไปจะได้ไม่ตกใจ และรู้ว่าจะต้องทำข้อสอบอย่างไร ในข้อสอบ IELTS จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน- ข้อสอบการฟัง (Listening) โดยเป็นการฟังเทปใช้เวลา 30 นาที มีทั้งหมด 40 ข้อ โดยแบ่งออกเป็น 4 ตอน
- ข้อสอบการอ่าน (Reading) ใช้เวลาทำทั้งหมด 1 ชั่วโมง มีทั้งหมด 3 ตอน รวม 40 ข้อ
- ข้อสอบพูด (Speaking) มีทั้งหมด 3 ส่วน โดยจะเป็นพูดการพูดตัวต่อตัวกับผู้คุมสอบ ใช้เวลาทั้งหมด 11-14 นาที
- ข้อสอบการเขียน (Writing) โดยมีกำหนดเวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 1 ชั่วโมง โดยข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน:
- สำหรับ IELTS Academic ส่วนแรกจะต้องเขียนรายงานประกอบ กราฟ, แผนที่ หรือ ภาพกระบวนการที่ให้มา และ ส่วนที่สอง เป็นการเขียนเรียงความ (Essay) เกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนดให้
- สำหรับ ELTS General ส่วนจะเป็นการเขียนจดหมาย และส่วนที่สองก็จะเป็นการเขียนเรียงความเช่นกัน
-
เข้าใจวิธีการให้คะแนน
หากเราอยากได้คะแนนระดับ 7 ขึ้น เราจำเป็นต้องรู้ว่าเกณฑ์การคำนวณคะแนนเป็นอย่างไร- คะแนนระดับ 9 หมายถึง มีความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาเป็นอย่างมาก (Expert users)
- คะแนนระดับ 8 หมายถึง สามารถใช้ภาษาได้อย่างดีมาก ( Very Good Users)
- คะแนนระดับ 7 หมายถึง สามารถใช้ภาษาได้ดี (Good Users)
- คะแนนระดับ 6 หมายถึง มีความสามารถในการใช้ภาษา (Competent)
โดยในส่วนของข้อสอบเขียนและพูด ผู้ตรวจข้อสอบจะใช้เกณฑ์อยู่ 4 เกณฑ์ คือ การตอบคำถามที่กำหนดอย่างชัดเจน (Task Achievement), ความสมเหตุสมผลและความสอดคล้อง (Coherence and Cohesion), ใช้คำศัพท์ถูกต้อง (Lexical Resource) และ ความถูกต้องและหลากหลายของไวยากรณ์ (Grammatical Range and Accuracy)
ส่วนข้อสอบการฟังและการอ่าน ผู้สอบต้องตอบคำถามให้ถูกต้อง 30-32 ข้อ จากทั้งหมด 40 ข้อ ในแต่ละทักษะ เพื่อให้ได้ คะแนนระดับ 7
-
การวางแผนเพื่อเตรียมสอบ
เริ่มต้นโดยการวางแผนว่าจะใช้เวลาในการฝึกวันละกี่ชั่วโมง อย่าฝึกทักษะใดทักษะหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ให้ฝึกทั้ง 4 ทักษะ เพียงแต่อาจจะให้เวลากับทักษะที่อ่อนมากกว่าทักษะอื่น วิธีที่ดีที่สุดในการฝึก ข้อสอบ IELTS คือการทำข้อสอบเก่า ๆ และจับเวลาระหว่างทำข้อสอบ อีกทั้งยังควรที่จะหยุดพักจากการฝึกทำข้อสอบสัปดาห์ละหนึ่งวัน เพื่อให้สมองได้พักผ่อน -
ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
นอกเหนือจากการเตรียมตัวสอบอย่างจริงจังแล้ว เราควรที่จะทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราให้ได้มากที่สุด เช่น การฟังเพลงภาษาอังกฤษ, ดูหนังภาษาอังกฤษ, อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ หรือ ลองฝึกสนทนาภาษาอังกฤษกับเพื่อนชาวต่างชาติ เพราะการที่เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นจะทำให้เราสามารถนำคำศัพท์ที่เคยฟังหรือประโยคที่เคยอ่านมาใช้ในการทำข้อสอบได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
Reference:
- Bhagya Azariah. (2565). How to Score a 7+ Band in IELTS – 7 Steps to Follow. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565, จาก https://bit.ly/3j2SxSW
- Yana Immis. (2563). How to Score a 7+ Band in IELTS – 7 Steps to Follow. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565, จาก https://bit.ly/3BITu9D
- WikiHow. (2564). How to Get 7 in IELTS. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2565, จาก https://bit.ly/3FvCZi4