8 อาการของโรคเบาหวาน อาการบ่งบอก มีอะไรบ้าง ควรหาหมอไหม

โรคเบาหวาน (ภาษาอังกฤษ: Diabetes) เป็นโรคที่มีผลกับความสามารถในการย่อยสลายน้ำตาลในร่างกาย ทำให้มีระดับในน้ำตาลเลือดสูง และสามารถทำลายร่างกายของคุณอยู่อย่างเงียบๆ โดยที่ไม่รู้ตัว การปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงโดยไม่รักษานั้น สามารถส่งผลถึงระบบเส้นประสาท, ตา, ไต และอวัยวะอื่นๆ ด้วย โดยโรคเบาหวานในระยะแรกนั้นอาจไม่แสดงอาการรุนแรง การสังเกตตัวเองว่ามีอาการบ่งบอกโรคเบาหวานจึงสำคัญมาก ดังนี้

อาการของโรคเบาหวาน

ฉี่บ่อย

การปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะการปัสสาวะตอนกลางคืนอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณได้เป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากการอาการทั่วไปที่สุดของโรคเบาหวานนั้นคือการขับปัสสาวะบ่อย สาเหตุมาจากระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงกว่าระดับปกติ ทำให้ร่างกายส่งส่วนที่เกินนั้นออกมาทางปัสสาวะนั้นเอง

หิวน้ำบ่อยกว่าปกติ/ปากแห้ง

การกระหายน้ำมากกว่าปกติ ในรูปแบบที่ต้องการน้ำอย่างรุนแรงโดยไม่รู้สึกพอสักทีเป็นส่วนหนึ่งของอาการบ่งชี้โรคเบาหวาน โดยเกี่ยวข้องกันกับการขับปัสสาวะบ่อยครั้ง เมื่อคุณฉี่ออกมาแล้วร่างกายจึงไม่สามารถรักษาระดับน้ำไว้ได้

น้ำหนักลดผิดปกติ

ความไม่สมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด จากการที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายน้ำตาลได้นั้น ทำให้ร่างกายขับออกน้ำตาลไปก่อนที่จะมีโอกาสแปลงมันเป็นพลังงานเข้าสู่ร่างกาย เมื่อน้ำตาลไม่ถูกใช้ ร่างกายจึงจำเป็นต้องหาพลังงานมาชดเชยโดยอาศัยพลังงานที่เก็บไว้ในร่างกายในรูปแบบไขมัน ดังนั้นผู้ที่มีอาการเบาหวานจึงสามารถเห็นว่าน้ำหนักและรอบเอวลดลงจากปกติ

อ่อนเพลีย หิวรุนแรง

เมื่อร่างกายขับน้ำตาลส่วนใหญ่ที่ทานเข้าไปออกสะส่วนมาก ทำให้ร่างกายไม่ได้รับอาหารและพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย และนั้นจึงทำให้เกิดอาการเบาหวานที่รู้สึกอ่อนเพลีย รู้สึกหิว ถึงแม้ว่าจะทานอาการไปแล้วก็ตาม ทั้งนี้อาการอ่อนเพลียอาจมีผลมีจากปัจจัยอื่นนอกจากโรคเบาหวาน เช่นการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าจากอายุที่มากขึ้นด้วย

แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย

อีกอาการสำหรับคนเป็นเบาหวาน  คือการที่แผลหายช้า รวมถึงติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงนั้น ทำให้เลือดมีความเข้มข้น จึงเป็นเรื่องยากที่เซลล์เม็ดเลือดขาวจะปกป้องเราจากการติดเชื้อ และสิ่งแปลกปลอมต่างๆได้ และนั้นยังส่งผลทำให้เผลหายได้ช้าลงด้วย เช่น รอยถลอกตามตัวที่ปกติหายไวก็หายช้าลง สิวหายช้าลง เป็นต้น

สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด

ถึงแม้ว่าสายตาพร่ามัวอาจมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น สายตาสั้นลง แต่อีกสาเหตุหนึ่งขออาการทัศนวิสัยพร่ามัว เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง หรือน้ำตาลไปคั่งอยู่ที่ตา ทำให้สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด ต้อกระจก หรือเกิดการรับแสงของดวงตาที่เปลี่ยนแปลงไป

ในระยะยาวอาการเบาหวานขึ้นตา ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ทำให้เส้นเลือดที่จอประสาทตาเสียหาย อาจส่งผลให้ตาบอดได้

ผิวแห้ง/คัน

นอกจากสาเหตุปกติของการคันตามผิวหนังจากที่ผิวแห้งจนเกินไปแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวานคือการอักเสบของผิวหนัง

โดยเมื่อร่างกายมีความไม่สมดุลของน้ำในร่างกาย ผิวหนังซึ่งเป็นแหล่งความชื้นที่ดีจึงถูกขโมยน้ำไปใช้เพื่อชดเชยส่วนที่ร่างกายขาดหายไป

อาการอื่นๆ

นอกจากอาการข้างต้นแล้ว ก็อาจมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดขา ชาปลายมือ ปลายเท้า หมดความรู้สึกทางเพศ ซึ่งเมื่อคุณมีอาการของโรคเบาหวานตามที่กล่าวมานี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน และทำการรักษาอย่างเร็วที่สุด

การตรวจวินิจฉัย โรคเบาหวาน

การตรวจคัดกรองเบาหวานนั้น มีหลายวิธีดังนี้

  • ตรวจพบจากการตรวจสุขภาพประจำปี
  • ตรวจพบจากการวัดระดับน้ำตาลในเลือด หลังงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
  • การวัดระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงเวลาใดก็ได้
  • การตรวจระดับ Hemoglobin A1C (HbA1C) ว่ามีค่าสูงผิดปกติหรือไม่

ตรวจเบาหวานที่ไหนได้บ้าง

สามารถตรวจคัดกรองโรคเบาหวานได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านคุณ หรือจะใช้สิทธิประกันสังคมในการตรวจคัดกรองโรคเบาหวานก็ได้

โดยสำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มสิทธิให้ผู้ประกันตนสามารถตรวจน้ำตาลในเลือดได้ และมีการจ่ายเงินชดเชยกลุ่มโรคที่มีภาระเสี่ยง เช่น โรคเบาหวานด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมของท่าน

แหล่งอ้างอิง
  1. https://www.healthline.com/health/diabetes
  2. https://www.healthline.com/health/diabetes-symptoms
  3. https://th-th.facebook.com/ssofanpage/posts/1606139446131540/
  4. https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/sso_privilege

วิชาการ
Logo
Enable registration in settings - general